“พิชัย” จับตาสงครามตะวันออกกลาง เบรกลดภาษีน้ำมัน ขอให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ดูแลราคาไปก่อน ลุยทบทวนตัวเลขสำรองประเทศ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งสงครามตะวันออกกลาง ว่า รัฐบาลมีการติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อ ก็ต้องดูถึงผลกระทบด้านราคาพลังงาน และเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่ ซึ่งในเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น เราก็ติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับเรื่องพลังงานนั้น หากสถานการณ์ราคาอยู่ประมาณนี้ รัฐบาลยังสามารถรับมือได้ แต่หากน้ำมันปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็มีกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลอยู่ ส่วนจะกลับไปลดอัตราภาษีน้ำมันสรรพสามิตหรือไม่นั้น ก็ต้องดูตามสถานการณ์
สำหรับสถานการณ์การสำรองน้ำมันในประเทศมีเพียงพอ ส่วนการส่งออกน้ำมัน หากเกิดปัญหาขึ้น ไทยก็สามารถเก็บไว้เป็นพลังงานสำรองได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปทบทวนตัวเลขการสำรองน้ำมันให้เพียงพอ และเหมาะสมกับสถานการณ์
“วันนี้ได้เรียกคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สภาอุตสาหกรรม และผู้ค้าพลังงานรายใหญ่เข้ามาหารือ และได้ตั้งโจทย์หากเกิดเหตุการณ์ตะวันออกกลางหรือแม้แต่เหตุการณ์ความขัดแย้งจากประเทศเพื่อนบ้าน เราขอดูรายละเอียด และมองในมุมผลกระทบเศรษฐกิจเพื่อรองรับไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม และได้ให้การบ้านว่าผู้ค้าจะมีแผนรับมืออย่างไร”
ส่วนจะมีการปรับวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อมารับมือสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.68 รัฐบาลจะแถลงการใช้เงินภายใต้กรอบดังกล่าวในก้อนแรก 1.1 แสนล้านบาท ยังเหลืองบประมาณอยู่ 4-5 หมื่นล้านบาท รัฐบาลสามารถนำมาดูแลในเรื่องที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ได้
© ไทยนิวส์เอ็กซ์เพรส