ค้นหาอย่างรวดเร็ว
วันนี้:

‘ทีเส็บ’เตรียมโรดโชว์ 3 ประเทศหลัก กระตุ้นตลาดไมซ์ครึ่งหลังปี 67

Jun 25, 2024 ศาสตร์ IDOPRESS

ทีเส็บ เผยประเทศไทยได้รับการยอมรับในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากผลการจัดอันดับล่าสุดขององค์กรด้านไมซ์สากลทั้ง ICCA UFI และ CVENT พร้อมเร่งเตรียมแผนเดินสายจัดโรดโชว์ และเข้าร่วมงานเทรดโชว์ กระตุ้นตลาดไมซ์ต่างประเทศ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศไทยได้รับการพัฒนาจนได้รับความไว้วางใจจากนานาชาติว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการจัดงานเชิงธุรกิจ และบทพิสูจน์มาจากการที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติมากมาย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

โดยในช่วงปี 2558-2566 มีค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมไมซ์คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.24 ล้านล้านบาท ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของไทยคิดเป็น 963,502 ล้านบาท สร้างรายได้ในรูปแบบภาษี 118,421 ล้านบาท และสร้างงาน 844,750 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังติด 1 ใน 10 ของจุดหมายปลายทางชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการจัดอันดับขององค์กรด้านไมซ์สากล ดังเช่น รายงานการจัดอันดับประเทศและเมืองเจ้าภาพด้านการจัดประชุมนานาชาติประจำปี 2566 ของสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) ประเทศไทยเป็นอันดับ 6 จากเดิมอันดับ 7 ของเอเชียแปซิฟิก เมื่อเทียบกับปี 2565 และปัจจุบันเป็นอันดับที่ 26 ของโลก จากเดิมอันดับที่ 32 ก้าวกระโดดถึง 6 อันดับโลกภายในหนึ่งปี

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของเอเชียในด้านการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยได้รับรางวัล Stella Awards ในสาขา Best MI destination of Asia 2023 เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ในช่วงปี 2564-2566 ดำเนินการโดย M&C Asia สื่อด้านธุรกิจไมซ์ในสิงคโปร์ 

และล่าสุดกรุงเทพฯ และภูเก็ต ติดหนึ่งในสิบจุดหมายปลายทางชั้นนำของเอเชียแปซิฟิกในปี 2567 โดยกรุงเทพฯ ติดอันดับที่2และภูเก็ตติดอันดับที่9โดยการจัดอันดับCVENT Top Lists2024 ซึ่งรวบรวมโดยอ้างอิงจากกิจกรรมการจัดหาผ่านCvent Supplier Networkหนึ่งในแพลตฟอร์มการจัดหาสถานที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ในส่วนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ จากรายงานของสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) ล่าสุดในปี 2565 พบว่าประเทศไทยมีพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้าเป็นอันดับที่ 1 ขยับขึ้นจากอันดับ 2 ของอาเซียน เมื่อเทียบกับปี 2564 และขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 4 ของเอเชีย จากเดิมอันดับที่ 8 ภายในหนึ่งปีเช่นกัน 

นายจิรุตถ์ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าและเทศกาลระดับนานาชาติ โดยหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน คือ การร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าและงานเทศกาลระดับโลก

ซึ่งอีกตัวอย่างโครงการสำคัญร่วมกับกระทรวงเจ้าภาพในการดึงงานร่วมกัน คือ โครงการประมูลสิทธิงานประชุมนานาชาติ One Ministry,One Convention (หนึ่งกระทรวง หนึ่งงานประชุมนานาชาติ) เพื่อยกระดับไทยให้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญของภูมิภาค ผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้จ่ายของนักเดินทางธุรกิจคุณภาพสูงจากทั่วโลก

สำหรับแผนกิจกรรมกระตุ้นตลาดไมซ์ต่างประเทศไตรมาสสุดท้าย ทีเส็บเตรียมแผนจัดโรดโชว์และเข้าร่วมงานเทรดโชว์ต่างประเทศ เจาะกลุ่ม3ประเทศเป้าหมายหลัก เริ่มจากประเทศอินเดียช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่เมืองกัลกัตตา และเมืองมุมไบ คาดว่าจะมีงานมาจัดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40 งาน ดึงนักเดินทางไมซ์กว่า8,000คน สร้างรายได้ราว528ล้านบาท

ต่อด้วย ประเทศจีน ในเดือนสิงหาคม ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่างโจว คาดว่าจะมีงานมาจัดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 45 งาน ดึงนักเดินทางไมซ์กว่า 9,000 คน สร้างรายได้ราว 594 ล้านบาท

ปิดท้ายด้วย ประเทศอินโดนีเซีย เดือนกันยายน คาดว่าจะมีงานมาจัดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 25 งาน ดึงนักเดินทางไมซ์กว่า 5,000 คน สร้างรายได้ราว 300 ล้านบาท รวมถึงเตรียมการนำผู้ประกอบการไมซ์ไทย เข้าร่วมงานเทรดโชว์ IMEX America 2024 เพื่อเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อในตลาดอเมริกาช่วงตุลาคมนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีงานไมซ์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยช่วงไตรมาสสุดท้าย อาทิ งาน The 27th IUPAC International Conference on Chemistry Education หรืองานประชุมวิชาการนานาชาติด้านงานเคมีศึกษาในระดับสากล จัดขึ้นวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2567 ณ เมืองพัทยา ชลบุรี, งาน Bangkok International Digital Content Festival 2024 หรืองานเทศกาลด้านดิจิทัลคอนเทนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จัดขึ้นวันที่ 5-8 สิงหาคม 2567 กรุงเทพฯ และงาน Thailand International LGBTQ + Film & TV Festival 2024 หรืองานเทศกาลเฉลิมฉลองความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศในสังคม ผ่านผลงานศิลปะในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จัดขึ้นวันที่ 20-24 กันยายน 2567 กรุงเทพฯ เป็นต้น

นายจิรุตถ์ กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ใน 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566-มิถุนายน 2567) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์กว่า 18 ล้านคน สร้างรายได้ 109,669 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศกว่า 894,000 คน สร้างรายได้ 52,980 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์ในประเทศกว่า 17 ล้านคน สร้างรายได้ 56,689 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสิ้นปีงบประมาณนี้ผลการดำเนินงานไมซ์จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โดยมีจำนวนนักเดินทางไมซ์รวมกว่า 23 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 136,000 ล้านบาท 

ค้นหาอย่างรวดเร็ว

ฝ่ายกิจการอย่างเป็นทางการเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับข่าวระดับภูมิภาคล่าสุด ข้อมูลอัปเดตขององค์กร และประกาศอย่างเป็นทางการ โดยให้การรายงานที่เป็นกลางและข้อมูลเชิงลึกในกิจการขององค์กร

© ไทยนิวส์เอ็กซ์เพรส