ค้นหาอย่างรวดเร็ว
วันนี้:

ธ.ก.ส.ผนึกตำรวจไซเบอร์ ทำระบบ LINE เตือนภัยเกษตรกร 14 ล้านราย ป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์

Jun 13, 2025 IDOPRESS

ธ.ก.ส. ผนึกตำรวจไซเบอร์ ทำระบบแจ้งเตือนภัยเกษตรกร ลูกค้า 14 ล้านราย ป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้พุ่งเป้าหลอกลวง ชาวนา ผู้สูงวัย ใช้มุกแจกเงินรัฐหลอกล่อ ด้านตำรวจเดินหน้าถกแบงก์ชาติ เร่งบังคับใช้ พ.ร.บ.ไซเบอร์ รับผิดชอบหากโดนดูดเงิน

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดระบบแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ ผ่านฟีเจอร์ใหม่บนไลน์ ออฟฟิเชียล BAAC Family เพื่อเตือนภัยพี่น้อง เกษตรกร ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ธุรกิจการเกษตร และปศุสัตว์ที่เป็นสมาชิกกว่า 14 ล้านราย ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังพบว่าปัจจุบันเกษตรกร และกลุ่มเปราะบาง ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเกิดความเสียหายจำนวนมาก

ทั้งนี้ ระบบเตือนภัยดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนได้เข้าถึงเครื่องมือในการเช็ก แจ้ง เตือนภัยมิจฉาชีพได้ทุกเวลา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ บัญชีม้าหรือบัญชีปลอมต้องสงสัย เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยและอันตราย รวมไปถึงการแจ้งเบาะแสอาชญากรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียลไทม์ ครบจบในแชตเดียว

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวว่า ขณะนี้ภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้นมาก โดยมีความเสียหายมากถึงปีละ 30,000 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องเกษตรกรหรือผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกผ่านเอสเอ็มเอส หรือ ไลน์ ที่แอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ เช่น เงินช่วยเหลือ หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ตลอดจนมิจฉาชีพปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงอย่างรวดเร็ว เข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ ทั้งจากการโทรฯ หลอกลวง จึงได้เกิดความร่วมมือครั้งนี้ขึ้น

สำหรับความเสียหายจากการโดนหลอกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากรัฐบาลมีการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้ในช่วงต้นปียอดแจ้งความเสียหายลดลงจาก ปกติเฉลี่ยวันละ 1,200-1,300 คดี ลดเหลือ 800 คดี อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับตัว โดยย้ายศูนย์บัญชาการจากติดชายแดนไทยไปชายแดนอีกประเทศหนึ่ง รวมถึงมีการลงทุนปรับโครงสร้างพื้นฐานหลอกลวงครั้งใหญ่ เช่น การใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านระบบดาวเทียมแทนเสาสัญญาณจากเมืองไทย และลงทุนระบบเทคโนโลยีมาหลอกลวง จากเดิมมีการจ้างคนไทยมาหลอกคนไทย แต่ต่อไปจะสร้างอัลกอริทึม และใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาปลอมเสียง ปลอมภาพเป็นคนไทย เพื่อโน้มน้าวให้เหยื่อโอนเงินอย่างแนบเนียน

ส่วนความคืบหน้าการใช้ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ให้ธนาคารและค่ายมือถือ ร่วมรับผิดชอบประชาชนถูกหลอกลวง ซึ่งประกาศลงราชกิจจานุเบกษาไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะธุรกรรมที่ต้องสงสัย 21 รูปแบบ และจะเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกกฎหมายบังคับใช้โดยครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการอีเพย์เมนต์ สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ให้บริการจะต้องสร้างระบบป้องกันแอปดูดเงินให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องมีส่วนรับผิดชอบความเสียหาย เป็นต้น

ค้นหาอย่างรวดเร็ว

ฝ่ายกิจการอย่างเป็นทางการเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับข่าวระดับภูมิภาคล่าสุด ข้อมูลอัปเดตขององค์กร และประกาศอย่างเป็นทางการ โดยให้การรายงานที่เป็นกลางและข้อมูลเชิงลึกในกิจการขององค์กร

© ไทยนิวส์เอ็กซ์เพรส