“นายกฯ” มอบ ทีเส็บ.-กกท. เจรจารายละเอียดจัด “ฟอร์มูลาอี” เชียงใหม่ วงเงินรวม 786 ล้านบาท หวังสร้างโอกาสไทยได้จัดงานระดับโลก
วันที่ 25 มิ.ย. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการแข่งขันฟอร์มูลาอีที่จะจัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลได้มีข้อสั่งการใน ครม. เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 67 ให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือทีเส็บ ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการการแข่งขันรถฟอร์มูลาอี (FORMULA-E) พร้อมเจรจาเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ส่วนการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. รับผิดชอบเจรจาเรื่องค่าบริหารจัดการแข่งขันทั้งหมด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกมากขึ้น
ทั้งนี้ การเจรจารายละเอียดการจัดงานร่วมกับฟอร์มูลาอีให้อยู่ภายใต้กับวงเงินที่จะใช้จัดการประมาณ 15-20 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 786 ล้านบาท ตามที่ทีเส็บได้ทำการศึกษาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ให้ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ร่วมมือกับ กกท. ศึกษารูปแบบการปรับพื้นที่ที่จะใช้เป็นสนามแข่งขัน รวมถึงภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับการจัดการแข่งขันเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดของฟอร์มูลาอี และขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้แนวทางในการชำระภาษีผลิตภัณฑ์ตามกรอบเวลาที่ฟอร์มูล่าอีกำหนด
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้อุตสาหกรรมไมซ์ เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าและเทศกาลระดับนานาชาติ โดยหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน คือ การร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าและงานเทศกาลระดับโลก ซึ่งอีกตัวอย่างโครงการสำคัญร่วมกับกระทรวงเจ้าภาพในการดึงงานร่วมกัน คือ โครงการประมูลสิทธิงานประชุมนานาชาติ One Ministry,One Convention (หนึ่งกระทรวง หนึ่งงานประชุมนานาชาติ) เพื่อยกระดับไทยให้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญของภูมิภาค ผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้จ่ายของนักเดินทางธุรกิจคุณภาพสูงจากทั่วโลก
สำหรับผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 67 (ต.ค. 66-มิ.ย. 67) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์กว่า 18 ล้านคน สร้างรายได้ 1.096 แสนล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศกว่า 8.94 แสนคน สร้างรายได้ 52,980 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์ในประเทศกว่า 17 ล้านคน สร้างรายได้ 56,689 ล้านบาท
© ไทยนิวส์เอ็กซ์เพรส